วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ (ถ้าตามสูตรจะใช้ 160 องศาเซลเซียส ไฟล่างค่ะ แต่เราทำเป็นถ้วยมัฟฟินก็เลยใช้ 175 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่างค่ะ) • 2. เตรียมพิมพ์ให้เรียบร้อย • 3. ใช้ส้อมบดกล้วยแล้วเติมนมสด และกลิ่นวานิลลาลงไป คนผสมให้เข้ากัน • 4. ผสมแป้งกับผงฟูและเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ เบอร์โทรศัพท์: 0949680823 Facebook: Duangdao Phumprasop ID Line: 0949680823 ที่มา และความสำคัญ ขนมเค้กในประเทศไทยนั้นย้อนกลับไปเมื่อปีพ. ศ. 2480 ขนมเค้กยังไม่เป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปมากนักจะมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้รับอารยธรรมตะวันตกหรือใกล้ชิดกับชาวต่างประเทศที่เข้ามาทาธุรกิจโดยร้านเบเกอรี่ (bakery) ในกรุงเทพฯมีอยู่ไม่มากนักร้านที่เป็นที่รู้จักย่านถนนเจริญกรุงคือ ร้านมอนโลเฮียงเบเกอรี่ต่อมาในปีพ.
ส่วนผสม 1. ทุเรียนสุกเละๆ 100 กรัม 2. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 100 กรัม 3. น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม 4. นมสดหรือนมจืด 100 กรัม 5. เนยสดละลาย 50 กรัม 6. ผงฟู 1 ชช 7. เบกกิ้งโซดา 1/2 ชช 8. เกลือป่นนิดหน่อย ถ้าใช้เนยเค็มก็ไม่ต้องใส่เกลือ 9. ไข่ไก่ 1 ฟอง ขั้นตอน 1. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดาเตรียมไว้ 2. ทุเรียนแบ่งออกมาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อเอาไว้วางบนเค้ก ส่วนที่เหลือบดให้ละเอียด 3. ผสมทุเรียน ไข่ นม เนย น้ำตาลทราย เกลือ คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ขั้นตอนนี้จะใส่เครื่องปั่นให้ละเอียดเลยก็ได้ 4. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในแป้งคนให้เข้ากันแล้วพักไว้ 30นาที 5. ครบตามเวลาแล้วคนแป้งอีกครั้งแล้วตักหยอดลงในภาชนะสำหรับนึ่ง อย่าใส่แป้งจนเต็มเพราะเค้กจะฟูขึ้นอีก แล้ววางชิ้นทุเรียนลงบนหน้าเค้ก 6. นึ่งน้ำเดือดจัดไฟค่อนไปทางแรง 20นาทีขึ้นอยู่กับขนาดของภาชนะด้วยค่ะ 7. เช็คสุกด้วยการเอาไม้แหลมจิ้มลงไปที่ตัวเค้กแล้วดึงขึ้นมาดูต้องไม่มีแป้งเละๆติดไม้ขึ้นมาแล้วยกขึ้นมาพักไว้ 8. เมื่อเริ่มอุ่นๆก็ให้รีบแคะออกจากภาชนะเลยเพราะความร้อนที่ขังอยู่จะทำให้ก่นภาชนะเป็นน้ำเค้กจะเละ 9. อยู่ได้ 2วันโดยไม่ต้องใส่ตูเย็น ขอขอบคุณสูตรโดยคุณ สุธารัตน์ เก่งพินิจ