ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
6. ภาวะพร่องน้ำหรือเลือดที่รุนแรง. 7. ความดันในกะโหลกศีรษะสูง. Q อุปกรณ์และยาที่จำเป็นในการทำ spinal anesthesia มีอะไรบ้าง A นอกจากชุดเครื่องมือสำหรับการทำ spinal anesthesia พร้อม spinal needle รวมทั้งยาชา เฉพาะที่ ได้แก่ 0. 5% heavy bupivacaine หรือ 0. 5% isobaric bupivacaine (ภาพที่ 3) สำหรับฉีด เข้า subarachnoid space แล้ว ยังมีอุปกรณ์และยาที่จำเป็นอื่นๆที่ต้องเตรียมพร้อมไว้เมื่อจะทำ spinal anesthesia อันได้แก่ - อุปกรณ์การให้ออกซิเจน: oxygen source (pipeline, cylinder). - ชุดเครื่องมือใส่ท่อหายใจ: endotracheal tube, laryngoscope, oropharyngeal airway. - อุปกรณ์การช่วยหายใจ: self inflating bag with mask หรือเครื่องดมยาสลบ. - Monitor: เครื่องวัดความดันเลือดและชีพจร, pulse oximeter, EKG. - ยา vasopressor เช่น ephedrine ต้องมีไว้พร้อมใช้งานทันที. - ยากู้ชีพ เช่น adrenaline, atropine. - ยาระงับอาการชัก เช่น thiopental, diazepam และยาหย่อนกล้ามเนื้อ เช่น succinyl choline. - Non-dextrose isotonic or balanced salt solution เช่น NSS, Lactate Ringers solution, Acetate Ringers solution. - เครื่องดูดเสมหะ พร้อมสายดูด.
เตรียมความพร้อมก่อนเข้าห้องผ่าตัด ในขั้นตอนแรกนี้ เมื่อแพทย์ได้พิจารณาให้ผ่าตัดบล็อกหลังแล้วก็จะกำหนดวันไว้ล่วงหน้าเพื่อให้คุณแม่ได้เตรียมตัว โดยต้องทำการงดน้ำและงดอาหารก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้สำลักอาหารเข้าไปในปอด และพยาบาลจะโกนขนที่บริเวณอวัยวะเพศเพราะอยู่ใกล้กับจุดผ่าตัด เพื่อทำความสะอาด รวมทั้งฆ่าเชื้อบริเวณหน้าท้อง และใส่สายสวนปัสสาวะด้วย 2. ให้ยาชาและผ่าตัด วิสัญญีแพทย์จะแทงเข็มเข้าบริเวณกระดูกสันหลังเพื่อให้ยาชา ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดขณะผ่าตัด นอกจากนี้แพทย์จะเจาะเส้นเลือดเพื่อให้ยาแก้ปวดรวมทั้งยาต่างๆผ่านเส้นเลือดดำ และเมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จึงทำการผ่าตัดที่ผนังหน้าท้อง ผ่านไปยังมดลูก เพื่อนำทารกและรกออกมาจากมดลูก 3.
แน่นหน้าอก ในระหว่างที่ทำการผ่าตัดนั้น คุณแม่อาจรู้สึกแน่นหน้าอก เนื่องจากฤทธิ์ของยาชาที่มากจนเกินไป จนทำให้หายใจได้ไม่ทั่วท้อง 2. ไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้ทันที เนื่องจากผลของฤทธิ์ยาชาจะยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายชั่วโมงหลังคลอด จึงทำให้คุณแม่ไม่สามารถขยับร่างกายส่วนล่างได้ตามต้องการ ต้องรอจนกว่าฤทธิ์ของยาชาจะหมดไป 3. อาการแพ้ยาชา คุณแม่บางคนอาจจะมีอาการแพ้ยาชาที่ใช้ระงับความเจ็บปวดในระหว่างคลอด โดยบางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ตัวสั่น และคันตามร่างกายได้ 4. ปัสสาวะไม่ออก ผลข้างเคียงจากการผ่าคลอดบล็อกหลังอีกอย่างหนึ่งก็คือ อาจทำให้คุณแม่ปัสสาวะไม่ออก โดยถ้าภายใน 12 ชั่วโมงแรกหลังคลอดคุณแม่ไม่สามารถปัสสาวะออกเองได้ แพทย์จะสวนปัสสาวะออกให้ 5. ปวดหลัง หลังการคลอดในช่วงวันแรกๆ อาจทำให้คุณแม่รู้สึกปวดเมื่อยที่บริเวณหลัง ซึ่งเป็นผลจากการโดนเข็มฉีดเข้าที่บริเวณแนวสันหลังนั่นเอง 6. ฤทธิ์ยาสั้น เมื่อฤทธิ์ยาชาออกฤทธิ์เพียงระยะเวลาสั้นๆ อาจทำให้ยาหมดฤทธิ์ก่อนที่ทารกจะคลอดออกมา โดยแพทย์ก็จะไม่ฉีดยาซ้ำเป็นรอบที่สองให้ จึงอาจทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดในขณะคลอดได้ ขั้นตอนการผ่าคลอดแบบบล็อกหลัง คุณแม่ที่อยู่ในภาวะปกติสามารถผ่าคลอดบล็อกหลังได้ ส่วนคุณแม่ที่อยู่ในภาวะเหล่านี้ เช่น รกเกาะต่ำ ลูกอยู่ในท่าก้น ปากมดลูกไม่เปิด แพทย์ก็จะวินิจฉัยให้ทำการผ่าคลอดด้วยวิธีนี้เช่นกัน ซึ่งการผ่าคลอดแบบนี้ จะทำให้ลูกคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งช่วยรักษาชีวิตของผู้เป็นแม่อีกด้วย ส่วนขั้นตอนใน การผ่าคลอด แบบบล็อกหลัง มีดังต่อไปนี้ 1.
ปริมาณของยาชาสำหรับยาระงับความรู้สึกเกี่ยวกับยาแก้ปวดนอกมากเกินกว่าที่จำเป็นสำหรับการระงับความรู้สึกเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ตำแหน่งที่สามารถใช้ยาสลบในบริเวณเอว, ปากมดลูกหรือทรวงอกของกระดูกสันหลังได้ในขณะที่การให้ยาระงับความรู้สึกเกี่ยวกับกระดูกสันหลังส่วนล่างสามารถทำได้เฉพาะด้านล่าง L2
ภาพที่ 1. ระดับช่องกระดูกไขสันหลัง L3-L4 เป็นตำแหน่งที่นิยมเลือกทำ spinal anesthesia. Q Spinal anesthesia คืออะไร A Spinal anesthesia คือการฉีดยาชาเฉพาะที่เข้า subarachnoid space โดยยาชาเฉพาะที่จะเข้าไปอาบที่ spinal nerve root, dorsal root ganglion และ spinal cord (ภาพที่ 1) เพื่อขัดขวางการส่งผ่านกระแสประสาทจากไขสันหลังเป็นการชั่วคราว. Spinal anes-thesia เป็นหัตถการที่ต้องปฏิบัติในสถานที่ที่มีอุปกรณ์เฝ้าระวังและอุปกรณ์ในการกู้ชีพพร้อมใช้งานได้ทันที. ภาพที่ 2. การทำ spinal anesthesia. Q ข้อบ่งชี้และข้อห้ามในการทำ spinal anesthesia A ข้อบ่งชี้ Spinal anesthesia เป็นการให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะส่วนล่างของร่างกาย (ภาพที่ 2) เพื่อการผ่าตัดบริเวณครึ่งล่างของลำตัว เช่น ช่องท้องส่วนล่าง ขาหนีบ สะโพก ขาสองข้าง และ perineum เป็นต้น. ข้อห้ามในการทำ spinal anesthesia ไม่ควรทำ spinal anesthesia ในผู้ป่วยที่ 1. ไม่ยินยอมรับการทำ spinal anesthesia. 2. แพ้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่. 3. ติดเชื้อบริเวณที่จะฉีดยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่. 4. ระบบการนำกระแสประสาทผิดปกติ (progressive neuropathy). 5. ระบบการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (coagulopathy).
ให้ผู้ป่วยนอนราบ ให้กินอาหารอ่อนๆ 2. ให้ยาระงับปวด โดยอาจให้ acetaminophen, NSAIDs หรือ weak opioids ขึ้นกับความรุนแรงของความปวด 3. ให้ hydration โดยการให้ดื่มน้ำมากๆ หรือให้ intravenous fluid 2-3 ลิตร/วัน 4. ถ้าอาการไม่ทุเลา ยังมีอาการปวดรุนแรง พิจารณาปรึกษาวิสัญญีแพทย์เพื่อทำ epidural blood patch บรรณาธิการ วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ. บ. ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้นิพนธ์ กรวีร์ พสุธารชาติ พ. บ., อาจารย์ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
043-348390 หรือ 043-363059-60 E-mail address: // จัดทำโดย ผศ. พนารัตน์ รัตนสุวรรณ ยิ้มแย้ม, วินิตา จีราระรื่นศักดิ์, สุทธินี เฟื่องกระแสร์ และสมาชิกกลุ่มพัฒนาคุณภาพบริการห้องพักฟื้น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40002
More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don't forget to follow and keep in touch with us on Facebook บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย ….. 1. 6 คุณประโยชน์ของนมแพะ มาดูสิว่ามีอะไรบ้าง 2. นมแพะดีอย่างไร ทำไมจึงเป็นตัวช่วยเสริม ที่ดีต่อลูกรัก